ฟรีเรนและเฟรุนได้ไปเยี่ยมไอเซ็น ระหว่างรื้อฟื้นมิตรภาพเก่าไอเซ็นได้ไหว้วานเธอให้ช่วยตามหา"สมุดบันทึกของฟรังเมเมจผู้ยิ่งใหญ่" ทั้งสามได้มุ่งหน้าลึกเข้าไปในป่าอันเป็นที่ตั้งของสถานที่ที่ไฮเตอร์สรุปไว้ก่อนเสียชีวิตซึ่งเป็นที่หลับใหลของสมุดบันทึก สิ่งที่ถูกเรียกว่าสมุดบันทึกของฟรังเมส่วนใหญ่จะเป็นของปลอมแทบทั้งสิ้น แล้วสิ่งที่อยู่ในสถานที่นั้นจะเป็นของจริงหรือของปลอมกันแน่...?

เธอผู้เป็นเอลฟ์ที่มีอายุยืนยาวกว่าพันปีได้สัญญาว่าจะกลับมาพบกับพวกฮิลเมลอีกครั้งและออกเดินทางคนเดียว

Your browser isn’t supported any more. Update it to find the most effective YouTube expertise and our most recent capabilities. Learn more

ข้ามไปเนื้อหา เมนูหลัก เมนูหลัก

When seeking to disguise one thing, Frieren apparentely has problem at lying when she is staying requested about what she intends to complete. As mentioned by Fern, this trait can easily be found when she helps make a considerably ankward facial expression specifically in her eyes, which can be closed in a strange way.

บนเส้นทางนั้น เธอได้พบกับผู้คนหลากหลาย ได้พบกับเรื่องราวมากมายที่กำลังรออยู่

ชาวบ้านจะนำอาหารหวานคาว พร้อมขนมเดือนสิบไปทำบุญที่วัด พร้อมทั้งให้พระสงฆ์ได้บังสุกุลอัฐิส่งส่วนบุญส่วนกุศลไปให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว และใส่บาตรอุทิศส่วนกุศลไปให้ หลังจากนั้น นำเครื่องเซ่นไหว้ตั้งที่ร้านเปรต (สถานที่ตั้งอาหารเป็นร้านสูงพอสมควร) เพื่อให้มากินเครื่องเซ่นไหว้ ต่อมา ชาวบ้านที่มาทำบุญ จะแย่งชิงสิ่งของที่ตั้งไว้ที่ร้านเปรต เพราะมีความเชื่อว่า ใครได้กินของเหลือจากที่เปรตกิน จะเป็นมงคลกับตัวเอง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำสืบต่อกันมานานตั้งแต่บรรพบุรุษเลยทีเดียว

Her new quest entails lots of retracing of outdated ways, so she finds herself going to locations that she after traveled and viewing them in a new mild. All she has left are memories. And every opportunity she could’ve connected far more with them but didn't.

เธอผู้เป็นเอลฟ์ที่มีอายุยืนยาวกว่าพันปีได้สัญญาว่าจะกลับมาพบกับพวกฮิลเมลอีกครั้งและออกเดินทางคนเดียว

รวมไปถึงไอเซ็น ที่แม้ว่าสังขารจะยังดูเดินเหินผจญภัยได้มากกว่าสมาชิกคนอื่นๆ แต่เขาเองก็ไม่สามารถบ้าบิ่นได้เช่นเดิมอีกต่อไปแล้ว สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือการฝากความกล้าไว้ในตัวเด็กหนุ่มอย่างสตาร์ค ผู้เคยหลีกหนีจากความกลัวของตนเอง แต่เมื่อความกล้าจากคนรุ่นก่อนที่ก็ล้วนแล้วแต่มีความกลัวเช่นกันถูกถ่ายทอดส่งต่อมา ความเชื่อมั่นจากคนรุ่นก่อนนี้เองที่ทำให้คนรุ่นถัดไปกล้าที่จะลุกขึ้นยืนหยัดได้ในที่สุด

It’s even related to the themes, despite being one of the most important heroes in record, Frieren in no way stood out and never ever really cared for anyone else, she by no means experienced ambition and never ever understood how brief a human lifetime may be for an elf like her, right until she learned when endeavoring to reunite with her old celebration, that’s when it clicked in and when she notices that she usually took that time with no consideration and regrets not expending more time with them or getting to know them now that there is no going back.

This anime has time skips in addition but These are nowhere in the vicinity of as significant, they don’t skip the scenes of people Discovering new factors, especially for the most crucial a person Frieren, who will come to appreciate, she understood and was nearer to her first social gathering than she generally imagined and she or he gains a function in life by accomplishing what they want her to complete once they died in the beginning of the Tale, and all of it happens on display screen, not between time skips.

คนส่วนใหญ่ในปัจจุบันประสบปัญหาไม่ต่างจากฟรีเรน แม้ว่าจะไม่ได้มีชีวิตยืนยาวเช่นเอลฟ์ก็ตาม เพราะหลายคนไม่สามารถเพ่งพินิจอยู่กับชั่วขณะโมงยามที่กำลังเกิดขึ้นได้นัก ด้วยความรวดเร็วของโลกโซเชียลที่ทำให้เราเข้าถึงทุกอย่างได้ง่ายดายเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการมีสมาธิจดจ่อกับการดูหนังที่ต้องมีโทรศัพท์มือถือมาขัดจังหวะ การไปคอนเสิร์ตที่จดจ่ออยู่กับการถ่ายสตอรีจนบางครั้งไม่มีความทรงจำเหล่านั้นอยู่เลย เหลือเพียงแค่ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอ

While retracing The trail she took on her adventure อ่านมังงะฟรี with her former traveling companions, Frieren confronts an old enemy.